การฟอกเงิน หรือ Money Laundry จะเป็นคำถาม ที่คนบางกลุ่มตั้งคำถาม กับ วงการเงินดิจิตอล ผมมีทัศนะส่วนตัว โดยย้ำว่า เป็นความเห็นส่วนตัวจริงๆ นะครับ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับกระผม แต่ประการใด นะครับ
เรามาดูกันก่อนว่า วัฏจักร ของการฟอกเงิน นั้น ปกติจะเป็นอย่างไร กัน ตามภาพครับ
หากดูดีๆ จะพบว่า มันคือการนำเงินนอกกฎหมาย ผ่านระบบการเงิน ของระดับประเทศ แล้วโอนเงินออกไปธนาคาร ต่างประเทศ จากนั้น ทำการปรุงแต่ง เป็นการ ให้กู้กันเอง แล้ว ใช้เงินคืนกลับมาที่ บัญชีภายในประเทศ ทำซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ หรือ ร่วมกับการซื้อ สินทรัพย์ ต่างๆ การลงทุนทางการเงิน การค้า หรือ ภาคอุตสาหกรรม สรุปคือ ตรวจไม่เจอ กลุ่ม อาชญากรรม ก็จะรวยไม่เลิก ...
แต่ภาครัฐ ปัจจุบัน มีเครื่องไม้เครื่องมือ พร้อมครับ หากทางการจะลงมือตอนไหน พวกนี้ หนีไม่พ้นแน่นอนครับ ผมจำได้ เคยเห็นท่านที่เป็นระดับหัวหน้า ของภาครัฐประเทศไทย ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า หากเราตรวจสอบจริงๆ กดคอมพิวเตอร์ไม่กี่คลิก ก็เห็นหมดแล้วแล้ว จากไหนไปไหน
เนื่องจาก ทุกอย่างอยู่บนระบบคอมพิวเตอร์ !!!
ซึ่งเราก็เห็นจริงตามนั้น ในประเทศไทย ตำรวจไทย จะสืบสวนเก่งมากๆ สอบสวนก็เก่ง ทำให้ เราได้เห็นข่าวการจับกุม ในคดีเศรษฐกิจ กันเป็นว่าเล่น เพราะตำรวจไทย และ องค์กรที่บังคับใช้กฎหมาย มีประสิทธิภาพ และ เทคโนโลยีพร้อมนั่นเอง
ทีนี้ในระดับ ภายในประเทศล่ะ มันฟอกเงินได้ไหม ผมก็ไม่ค่อยรู้นะครับ เพราะไม่เคยเกี่ยวข้องกับ ความรู้แนวนี้ แต่ อาศัยดูจาก ละคร หนัง มาก่อน อย่าง ละครฮ่องกง สมัยก่อนฮิตมาก เจ้าพ่อ นั่น เจ้าพ่อนี่ มีฉายกันเกลื่อน ทั้งจอแก้ว จอเงิน พบว่า บรรดาขาใหญ่ ง่ายๆ เลย เขาก็เอาเงินผ่าน ตามช่องทางจำหน่ายต่างๆ น่ะครับ เช่นร้านรวง ต่างๆ สารพัด เงินก้อนใหญ่ ก็ผ่าน ร้านใหญ่ๆ มีคนพลุกพล่าน ก้อนเล็กๆ ก็ผ่านช่องทางเล็กๆ เช่นร้าน อาหารข้างทาง
ทำไม? มันก็เป็นอะไรง่ายๆ ดูง่ายๆ อย่างจะเก็บภาษี เขาก็มาประเมิน ไม่ใช่มาดูบัญชี กับร้านที่ คงไม่มีใครมานั่งทำบัญชี จริงจัง อย่าง ร้านก๋วยเตี๋ยว รถเข็น เจ้าหน้าที่จะมาประเมิน ว่าน่าจะได้ เท่านั้นเท่านีชาม แบบนี้ นั่นภาษี แต่เงินได้ ต่อวันล่ะ อันนี้ ใครประเมินล่ะ เพราะเอาเข้าธนาคาร ทุกวัน???
เจ้าพ่อฮ๋องกง เลย ผ่านพวกนี้ครับ ได้เงินมา 1 ล้าน ก็เอาไปผ่าน ร้านรวงย่อยๆ สัก 30 แห่ง แป๊บเดียวก็เข้าธนาคารเป็นเงินถูกต้องหมดแล้วนะ จริงไหม ???
เขาคงมีคนทำบัญชีมั้งผมว่า เดี๋ยวทำไปทำมา มันก็ไปเข้ากระเป๋า ขององค์กรใหญ่เอง น่าจะประมาณนี้ คือ มัน อนุมาณเอาเองได้ครับ หากผิดพลาดขออภัย ผมไม่ขอรู้แบบจริงๆ นะครับ ฮ่ะๆๆๆ บอกแล้วผมดูมากจาก ละครฮ่องกง ++"
นี่คือสิ่งที่อยู่ในโลกจริง แต่ย้ำว่า สมัยนี้ ทางการ เก่งมาก คงมีน้อยลงไปเยอะครับ ผม
เอาล่ะแล้วโลกเงินดิจิตอลล่ะ ???
บิตคอย ยกตัวอย่างมาเลย เขาเป็นที่ 1 ในวงการ ถามว่า มีไหน องค์กร อาชญากรรม กับ บิตคอย ผมก็ขอเดาว่า มีครับ แต่ที่เยอะๆ มากๆ นี่ยังอยู่ไหม ผมขอบอกว่า หายไปเยอะแล้วครับ ตั้งแต่การ กวาดล้างเว็บไซต์ Silk Road ที่ใช้บิตคอยแลกเปลี่ยนกับ สินค้าผิดกฎหมายนานาประเภท วงการเรียกเว็บแนวนี้ว่า
Deep Website หรือ ไอ้พวกสายลึกลับครับ
ตัวเขามีอยู่ แต่ โลกอินเตอร์เน็ต คนหาไม่พบ หรือ คนส่วนมาก ไม่เคยรู้ว่ามีอยู่ในโลกนี้ คือรู้กันเฉพาะคนวงใน นี่ล่ะ Deep Website หรือเรียกสั้นๆ ว่า Deep web พี่น้อง
Deep Web จำเป็นต้องเลวเสมอไปไหม? ไม่จำเป็นครับ แต่ เพี้ยนๆ นี่เยอะมาก แบบที่ดีๆ ก็มี คือเขาต้องการเป็นสังคมเฉพาะของเขา ทำสิ่งดีๆ ก็เยอะไป แต่ บ้าๆ โหดๆ เลวจริงๆ ก็เยอะจริงๆ ครับ ตั้งแต่ ภาพโป๊ หนังโป๊ การทรมาน และ อย่าง Silk Road คือ ค้าขาย ยาเสพติด สินค้าอาชญากรรม นานาชนิด ผมเคยเห็น คนเอามาให้ชม บนคลิบ โห มันทำเหมือน ห้่างสรรพสินค้าฝ่ายชั่ว จริงๆ ครับ มีครบ ทำงานด้วยระบบ ฐานข้อมูลออนไลน์ สั่งซื้อได้ในคลิกเดียว ว่าเข้านั่น แต่ มันโดนปิดไปแล้วครับ
เข้าใจว่า FBI เป็นคนจัดการ
บางคนบอกว่า เห็นไหมล่ะ เงินดิจิตอล มันอันตราย อันนี้ไม่เถียงครับ แต่เราอาจพูดไม่จบ
จริงๆ คือ มันอันตรายได้ แต่ อยู่ที่คนเอาไปใช้ แต่ ทางการเขาสืบจับได้ ครับ อย่าลืม
หากผมเทียบแบบนี้ ในไทยเรา มีพวกแชร์ลูกโซ่ ธุรกิจขายตรงแบบ MLM ที่ทำงานแบบ ปิระมิด มีไหม
ตอบให้เลย มีครับ และหลายที่ ทางการยังไม่จับเท่านั้นเอง ผมจะเล่าให้ฟังว่า ก่อนจะเปิดได้ ต้องขออนุญาต กับทางการก่อนว่า จะขายตรง ขายอะไร มีแผนการตลาดแบบไหน และ ต้องมีการ ซิมูเลชั่น ตามแผนการตลาดว่า จะจ่ายเงินได้จริงไหม ทางการจึงจะให้ผ่าน คือมันมีกฎหมาย ดักกรองอยู่
แต่พอมันได้ใบอนุญาต แทนที่จะขายของ ทำไปทำมา ไม่มีการขายของ หรือ ขายของน้อยมากๆๆๆ และ เน้นการแนะนำสมาชิกต่อๆ ไป นี่ก็ผิดเงื่อนไข แจ้งตั้งบริษัทแล้ว จริงไหมครับ มันถึงโดนจับในที่สุด เพราะหากปล่อยเอาไว้ ลูกชั้นที่ เท่าไรๆ ไม่ทราบได้ ต้องมี การจ่ายคอมมิสชั่นไม่ได้ ขึ้นแน่ๆ เพราะใช้เงินมาต่อเงิน คือ เอาเงินของคนใหม่ มาเลี้ยงคนเก่า ไปเป็นทอดๆ แบบนี้
วิธีสังเกต คือ พอเริ่มทำๆ ไป ขายสินค้าไม่เน้นแล้ว แต่เน้น หาคนเข้ามาเยอะๆ แบบนี้ระวังนะครับ พี่น้อง !!!
ที่นี้ พวกปิระมิด หรือ แชร์ลูกโซ่ นี่เวลาเขาจ่ายคอมมิสชั่น เขาจ่ายด้วยอะไร ไม่ใช่ที่ดิน สินค้า บ้าน หรือ รถ แต่เขาจ่าย ด้วยเงิน ครับ ในไทย ก็เงิน บาท ประเทศอื่นๆ ก็เงินของประเทศนั้นๆ
คำถามชวนคิดคือ นี่ตอนนี้ แชร์ลูกโซ่ ใช้เงินบาท จ่าย คอมมิสชั่น ให้ลูกข่าย นี่ เงินบาท ผิดไหมครับ ???
คำตอบคือ เงินบาท ไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย แต่เป็น เงินสกุล ที่เราเชื่อถือ และใช้ชำระนี้ได้ตามกฎหมายน่ะ บังเอิญ พวกหลอกลวง มัน มาใช้เงินบาทเองครับ
เช่นกัน กรณีกลุ่มอาชญากรรม เข้าอินเตอร์เน็ต แล้ว ใช้ เงินดิจิตอล บิตคอย มาแลกเปลี่ยน กับสินค้า แบบนี้ บิตคอย ผิดหรือเปล่า ???
ต้องยุบเงินบิตคอยเพื่อไม่ให้ แก็งค์ อาชญากรรม มาป้วนเปี้ยว ในอินเตอร์เน็ต แบบนี้ ดีไหม หากเป็นแบบนั้น เราต้องเลิกใช้เงินบาท เพื่อ ลดอาชญากรรม หรือเปล่า พวกแชร์ลูกโซ่จะได้หมดไปจากไทย ซึ่ง ผมไม่ขอ ตอบตรงนี้ แต่ให้ นักวิชาการ ตอบครับ :0)
เงินดิจิตอล จึงไม่ใช้ สิ่งที่ทำให้สิ่งเลวร้าย กำเนิด แต่ สิ่งเลวร้ายต่างหาก ที่ หาช่องทางใช้เงินดิจิตอล แต่ กระทั่งเงินจริง รัฐบาล นานาประเทศ ก็ยอมรับว่า มันก็เอาไปใช้เหมือนกัน และ ทำมาตั้งแต่ มีคำว่า เงิน ในโลกใบนี้ ไม่ใช่หรือ
มือถือนี่ก็เหมือนกัน ตั้งแต่มีมือถือ และ ราคาลดจาก 3 หมื่น มาจน ไม่กี่ร้อย ก็ซื้อได้ ทุกชนชั้นมีมือถือใช้เสมอกันหมด อาชญากร จึง เก่งขึ้น ตำรวจมาปากซอย บ่อนท้ายซอย ปิดหมดแล้ว เพราะมันโทรตามกับ บอกกัน แต่ ตำรวจเขาก็มีตัวตัดสัญญาณ มีขั้นตอน ไฮเทคกว่ามาจับมันได้ทุกทีนี่ จริงไหม?
สิ่งแรกเมื่อเกิดนวัตกรรม ใหม่ๆ ก็คือ ต้องยอมรับว่า จะเกิดด้านลบอะไรได้มั่ง ไม่ใช่ไปบอกว่า มันดีเลิศประเสริฐศรี ทั้งหมด อย่างเงินดิจิตอล ต้องยอมรับว่า อาชญากร เอาไปใช้ ฟอกเงินได้ จริงๆ แต่... แต่อะไรก็ว่าไป และต้องยอมรับว่า มันมีจุดแข็ง โอกาส จุดดีๆ มากมายเช่นกัน แบบนี้ คือ การพัฒนาของโลกครับ
ด้านลบ ต้องยอมรับเพราะว่า จะได้ มีการถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์ อย่างกว้างขวาง ซึ่งตอนนี้ในวงสัมมนาบิตคอย ก็มีการแลกเปลี่ยนความรู้กัน ซึ่งมันจะนำไปสู่การวิวัฒน์ พบทางออก ที่เป็นไปได้ ได้ผลในที่สุด ในอนาคต
ในทางเทคนิคแล้ว ความเห็นส่วนตัวของกระผม ผมอาศัยความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่พอรู้ มาแสดงความเห็นก็คือ ผมคิดว่า พวกอาชญากร หลังกรณี Silk Road ที่โดน FBI ปิดโดเมนไปนี่ คงขยาด และใช้ เงินดิจิตอลกันน้อยลงเป็นอย่างมาก เนื่องจาก
1. หากพวกเขาใช้บิตคอยเป็น ทำ Deep Web เป็น แสดงว่า มีคนมีความรู้ในองค์กร มากพอควร แต่เขาอาจไม่กระจ่างเรื่อง Decentralize หรือ ระบบไม่รวมศูนย์ ของ บิตคอยนั่นเอง อาจจะเชื่อว่า ไม่มีทาง ติดตามเจ้าของบัญชีการเงินได้ ซึ่ง ทางทฤษฎีนะใช่ครับ ติดตาม อยากมหาศาล คือ ไม่มีทางหาพบ แต่ว่า น้อยคนจะช่างสังเกต เช่น การจะเข้าระบบ เพื่อเข้าไปซื้อสินค้าผิดกฎหมาย ยาเอย อะไรเลย มันต้อง Login ใช่ไหม นั่นล่ะ จบไปแล้ว มันไม่เป็น Anonymity หรือ นิรนามอีกต่อไปแล้ว ทางการจึงจับได้ไม่ยากครับ
นี่ล่ะคือตัวพลาด
2. ทางการย่อมมี สายสืบ ผมเชื่อแบบนี้ ดูจากหนังฮ่องกงอีกล่ะ เขาเรียกว่า นอกเครื่องแบบใช่ไหม ยังไงๆ มันต้องคุยกันล่ะ มันต้องแพลมออกมาล่ะ ว่าใช้เงินนี่ นั่น ใครเป้นคนดูแลผ่านเน็ต ก็เสร็จสิครับ
3. การระบุว่าใคร ใช้บัญชีบิตคอย Wallet ตัวไหนอาจจะยาก บางเว็บไซต์ มีระบบ ออกที่อยู่ ได้ไม่จำกัด คนที่ใช้บริการ คิดไปเอง สบายล่ะ มันไม่รู้ว่าเราเป็นใคร แต่ ลืมไปว่า ตอนลงทะเบียน น่ะ บอก ทั้งอีเมล์ ที่อยู่ เบอร์โทร เขาหมดแล้ว จริงไหม เล่า? ไม่งั้่นจะทำ OTP รับเลขรหัสเพ่ือเอาไปยืนยันตัวตนก่อนเปิด Wallet ได้ยังไงล่ะ ทางการเขาสืบได้จากตรงนี้ครับ
4. มี Blockchain.info มันบอก หมด ใครส่งอะไรไปไหนวันไหน ค้นข้อมูลได้อีกต่างหาก
5. บางกลุ่มอาจจะคิด มันต้องใช้ 2 ดอก คือ
1.ใช้เงินดิจิตอล ซึ่งคิดว่า ตามตัวยาก
2. ใช้ Browser ชื่อว่า TOR
แค่นี้ ก็กลายเป็นบุคคลลึกลับระดับสุดยอด คนตามหาไม่ได้แล้ว นี่เพี้ยนมากครับ วงการแฮกเกอร์ เขามีข่าวมาตั้งนานแล้วว่า สหรัฐ สามารถ ติดตาม เครือข่าย TOR ได้มาระยะหนึ่งแล้วนะครับ เลิกเพี้ยนกันได้แล้ว จ้า
ขนาด Deep Web อย่าง Silk Road ยังโดนรวบ ผมว่า อาชญากรรม น่าจะลดลง ในวงการ เงินดิจิตอลนะครับ ไม่ใช่เพิ่มขึ้น
เพราะองค์การ พวกนี้ คงมีคนมีฝีมือหลักร้อย หากผมคนเดียวคิดได้ พวกเขามีหรือ จะคิดไม่ออกว่า การมา ฟอกเงิน ในวงการดิจิตอล นั้นไม่ฉลาดเลย เพราะเทคโนโลยีฝ่ายธรรมะ เขาย่อมต้องถ่ายทอด กันไปทั่วโลกครับ ไม่งั้นจะมี ตำรวจสากลหรือ :0)
ก็เป็นแนวคิดของคนเล็กๆ ในสังคมเงินดิจิตอล ของไทย คนหนึ่งนะครับ อ่านเป็นความรู้ สนุกๆ ครับผม
พบกันใหม่ในบทความต่อไป
สวัสดีครับ
พี่บอลล์ :0)
No comments:
Post a Comment