"ข้อแตกต่างของ Asset กับ เงินดิจิตอล ต้องแยกให้ถูก มันคนละเรื่องกัน!!!"
ในโลกออนไลน์ ถ้าเราไม่เชี่ยวพอ เราอาจโดนหลอกได้ ไม่ว่าจะหลอกแบบจริงจัง หรือ หลอกแบบ ทำให้คิดไปว่า ... ก็ตาม หลอกก็คือการหลอก วงการ เงินดิจิตอล โดยตัวของเขาเอง อยู่ในกลุ่ม ธุรกิจออนไลน์หรือเครื่องมือ หรือ นวัตกรรมออนไลน์ "สายขาว" ได้แน่นอน เพราะ ความชัดเจน ความถูกต้อง ความโปร่งใส และ ระบบรักษาความปลอดภัย นั้น สูงเยี่ยมยอด คือ เป็นอะไรที่ปลอดภัย ไร้พิษภัยสุดๆ ครับ ที่สำคัญ มีองค์กรการศึกษา ระดับโลก ให้ความสนใจ จัดงานสัมมนา กันมาอย่างต่อเนื่อง เช่น MIT,Stanford และอีก มหาวิทยาลัยอื่นๆ รวมทั้ง ภาคเอกชนระดับโลก ในการยอมรับ คงไม่ขอกล่าวซ้ำนะครับ ติดตามได้จาก บทความก่อนๆ ของกระผมได้ครับ :0)
แต่เงินดิจิตอล จะโดน กลุ่มองค์กร หรือ บุคคล นำ เงินดิจิตอล ไปใช้ โดยอาศัยความสะดวก ในการโอนเงิน ความปลอดภัยที่ว่าไว้ และ ค่าใช้จ่ายในการโอนเงินที่แทบจะเป็นศูนย์ไปใช้ เป็นประโยชน์กับ ระบบ เว็บไซต์ หรือ ธุรกิจของตนเอง อันนี้คือ หลีกเลี่ยงไม่ได้
ซึ่งเงินดิจิตอล ไม่ได้ ไปมีส่วนทำผิดอะไรด้วย เพราะเป็นเพียงเครื่องมือ ในการใช้จ่าย ก็เท่านั้น นี่ข้อหนึ่ง ที่เราต้องให้ ความยุติธรรมกับเงินดิจิตอล นวัตกรรมไอที อื่นๆ ก็มีมากมาย เช่น อินเตอร์เน็ต มีทั้งคน นำไปทำองค์กรการกุศล ทำคุณูปการกับโลกมากมาย เป็นส่วนใหญ่ แต่ทำเว็บไซต์ โป๊ ก็มี เอาไปทำเว็บแนวเลวร้ายก็มี แต่เราจะเห็นว่า บทบาทนำ 99% หรือมากกว่านั้น คือ เว็บไซต์ น้ำดี ทั้งนั้น เพราะ คนปกติ เขาไม่หาเรือง เลวร้าย ขุ่นมัว อึดอีดเข้าตัว นั่นเอง จริงไหม ครับ :0)
เงินดิจิตอล ก็เช่นกัน หากคนที่นำไปใช้ ใช้ในทางที่ดี ส่วนมาก 99% เป็นแบบนั้น ก็เป็นเรื่องปกติ แต่อีก 1% หากนำไปใช้ในแง่ร้าย หลอกลวงคน หรือ ก่ออาชญากรรม หรือ เอาไปทำกิจกรรม เชิง ธุรกิจ ที่ล่อแหลม ขาวก็ไม่ใช่ ดำก็ไม่เชิง นี่ไม่ใช่เรื่องดี ซึ่ง ทางการแต่ละประเทศ สามารถ จัดการกับคนไม่ดีได้เราจะบอกว่า เงินดิจิตอล ไม่ดี คงไม่ใช่ มิเช่นนั้น อินเตอร์เน็ต ที่เป็นองค์ประธาน ต้นเรื่อง ของ กิจกรรมออนไลน์ ก็ควรปิดตัวไปเสีย หากเราคิดแบบนั้นจริงไหมครับ
ผมคิดว่าหากเรามองแง่บวก โดยอาศัย ผลลัพธ์ของอินเตอร์เน็ต กว่า 30 ปีที่ผ่านมา น่าจะเป็นแนวทาง บวก ที่พาเราไปสู่ โลกยุคติจิตอลได้ จริงจัง และ ตรงกับความเป็นจริงมากขึ้น ครับ
ในอินเตอร์เน็ต สำหรับบทความนี้ ขอกล่าวเตือน และให้ความรู้ไปพร้อมๆ กันว่า ธุรกิจ องค์กร หรือ เครือข่าย ออนไลน์ เราถือเป็น Digital Asset ขอให้อ่านตรงนี้ดีๆ และ เงินดิจิตอล หรือ Cryptocurrency เช่น บิตคอย ไลต์คอย และ ดอจคอย เป็นต้น เป็น นวัตกรรม ที่สร้างขึ้นมา เพื่อ ทำหน้าที่แทนเงินจริงๆ ในการ โอน รับ ส่ง ชำระหนี้ ซื้อขาย เป็นต้น นั่นคือ มันคือเงินรูปแบบหนึ่ง...ขณะที่ ไทยเรา ยังถือว่า เงินดิจิตอล เป็น Commodity แบบหนึ่ง ไม่เป็นไร เวลาใช้จ่ายเงินดิจิตอล ก็คล้ายๆ คุณเอาทอง เช่น 1 บาท 1 สลึง ไปแลกซื้อ ของที่มีราคา ตามมูลค่า ของทองคำ ตามน้ำหนัก นั่นล่ะ คือ เป็นสิ่งที่คนเชื่อถือ รับรองว่า มันใช้แลกได้ ...แต่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวาน ได้ รับรอง เงินดิจิตอล เป็นรูปแบบเงินทั่วไป อีกรูปแบบหนึ่งไปแล้ว ด้วยเหตุผลเดียวกัน คือ ผู้คนให้ความ เชื่อมั่น เชื่อถือ ในการใช้ ซื้อขายสินค้าได้ นี่คือ ก้าวสำคัญของโลกเงินดิจิตอล นะครับ ญี่ปุ่น เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ใช่ไหมครับ ???
ทางสหรัฐ เข้าใจว่า คิดกับเงินดิจิตอล แบบไทย แต่คิดมาก่อนเรา เพียงแต่ตอนนี้ ก็กำลังมีการพิจารณา ทบทวนกันอยู่ และรัฐบาลของ สหรัฐ ไม่ขัดขวาง การใช้เงินดิจิตอล เพราะมันคือ เสรีภาพ ตราบที่คนยอมรับมัน ไม่มีใครบังคับ มันคือ เสรีภาพ นั่นเอง
นั่นคือ เงินดิจิตอล
ที่นี้ หากเรา ไปใช้ ระบบ รูปแบบธุรกิจใดๆ ก็ตาม เพื่อให้ได้มา ซึ่ง เงินดิจิตอล แต่กล่าวอ้าง แบบทำให้สับสน เช่น
สะสมเงินบิตคอยโดยมาร่วมธุรกิจ กับเรา .....
อะไรประมาณนี้ ต้องเข้าใจนะครับ ไม่ว่าจะมีธุรกิจ หรือ กิจกรรมนั้นๆ หรือ ไม่ บิตคอย หรือ เงินดิจิตอล สกุลใดๆ ไม่ได้ เพิ่ม หรือ ลด เพราะธุรกิจนั้นๆ เลย เราสามารถ สะสมเงินติจิตอล ด้วยตัวของเราคนเดียว ไม่จำเป็นต้องมีธุรกิจอะไรมาช่วยเรา จำไว้ดีๆ เพราะ
กิจกรรม ที่ใช้เงินดิจิตอล เหล่านี้ เป็น Asset Online นั่นเอง มันไม่ได้ มามีส่วน เพิ่มยอด หรือ ลด เงินดิจิตอล แต่อย่างใดทั้งสิ้น มันคือ Asset รูปแบบหนึ่งเท่านั้น แต่ได้ นำเงินดิจิตอล ไปเป็น สื่อกลางส่งรับเงิน ก็เท่านันเองครับ
โดยสรุปคือ อะไร ที่ใช้เงินดิจิตอลเป็น สื่อกลาง เราอาจเรียกได้ว่า เป็นรูปแบบธุรกิจ นอกวงการเงินดิจิตอล หรือ เป็น Asset Online และ เงินดิจิตอล ก็คือ เงินดิจิตอล อาจมีบ้าง ที่ Asset Online บางเจ้า ที่มีระบบ Digital Ticket หรือ ตั๋วเงินใช้กันในเครือข่าย ซึ่ง บางแห่ง มีคนร่วมเครือข่ายจำนวนมาก จนส่งผลให้เกิด อุปสงค์ อุปทาน อันมีพื้นฐาน มาจาก ภายในตัว Asset เอง ดังนี้ ถ้ามี การซื้อขายแลกเปลี่ยน เกิดขึ้น ก็อาจนับเป็นเงินดิจิตอลได้ครับ เพียงแต่ ระบบความปลอดภัย ย่อมสู้ เงินดิจิตอล ที่เราเรียกว่า Cryptocurrency จริง ไม่ได้ แน่นอน :0)
ดังนั้น ระบบ เครือข่าย ธุรกิจ ใดๆ กิจกรรม ใดๆ ที่ใช้เงินดิจิตอล เป็นสื่อกลาง จึงไม่ใช่ ที่มาของเงินดิจิตอล เงินดิจิตอล มีที่มาจาก สังคม นักวิชาการ นักค้นคว้า ซึ่งมีประวัติมายาวนาน รวมทั้ง บรรดาโปรแกรมเมอร์ เก่งๆ และ กลุ่มสังคม เฉพาะของทางนี้ครับ ซึ่งตามจริงแล้ว เริ่มใช้กันมาตั้งแต่ ทศวรรษที่ 90 หรือ ก่อนนั้นด้วยซ้ำ แต่ไม่เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง อย่างบิตคอย และ เงินดิจิตอลสกุลอื่นๆ ในปัจจุบัน เพราะไม่มีการใช้ ระบบบัญชีแยกประเภท ออนไลน์ หรือ Blockchain นั่นเอง
ขอให้แยกให้ถูกนะครับ เงินดิจิตอล คือ เงินดิจิตอล เท่านั้นครับผม
สวัสดีครับ
คุณ บอลล์ :0)
คุณ บอลล์ :0)
<><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><>
#ฺฺฺBitcoin #Litecoin #Dogecoin #คุยกันเอามันส์ #Altcoins#MEME_Dogecoin #Thailand_Dogecoin_Club_To_The_Moon#Cryptocurrency #บิตคอย #ไลต์คอน #ดอจคอย #เงินดิจิตอล#บทความเงินดิจิตอล #บทความ #ธุรกิจออนไลน์ #ไอที #คอมพิวเตอร์
<><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><>
#ฺฺฺBitcoin #Litecoin #Dogecoin #คุยกันเอามันส์ #Altcoins#MEME_Dogecoin #Thailand_Dogecoin_Club_To_The_Moon#Cryptocurrency #บิตคอย #ไลต์คอน #ดอจคอย #เงินดิจิตอล#บทความเงินดิจิตอล #บทความ #ธุรกิจออนไลน์ #ไอที #คอมพิวเตอร์
<><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><>
Invest in LiteCoin on eToro the World’s Leading Social Trading Network!
ReplyDeleteJoin millions who have already discovered better strategies for investing in Litecoin...
Learn from profitable eToro traders or copy their positions automatically.