ราคาอาจต้องปรับ -4$ ตาม Coindesk

***ราคาอาจต้องปรับ -1$ ถึง -4$ ตาม Coindesk *** บล็อกพี่บอลล์ เราให้ความรู้ Cryptocurrency ที่่ถูกต้อง เพื่อนคู่คิดของคนไทย สำหรับวงการ เงินดิจิตอล WOW :0)

Monday, March 28, 2016

"แนวทางการประยุกต์ การเทรด Bitcoin แบบ Forex เพื่อคุมระดับราคา Bitcoin ที่เราถือครอง ไม่ให้ขาดทุน ทำอย่างไร?"

"แนวทางการประยุกต์ การเทรด Bitcoin แบบ Forex เพื่อคุมระดับราคา Bitcoin ที่เราถือครอง ไม่ให้ขาดทุน ทำอย่างไร?"


โดยทั่วไปแล้ว เป็นเรื่องปกติ ที่ราคาของตลาดที่มีคนสนใจมาก มีสภาพคล่องมากๆ อย่าง บิตคอย Bitcoin จะมีการผันผวนของราคา นี่เป็นกลไกการลงทุน ตามธรรมชาติ เพราะ การผันผวน มาได้จากหลายทิศทาง
เช่น ข่าว, มูลค่า, เศรษฐกิจโลก และ อื่นๆ อีกมากมาย ยิ่งกับ บิตคอยด้วยแล้ว ไม่ต้องพูดถึง เพราะ พี่ท่าน ครองตลาด เกิน 90% ของตลาดเงินดิจิตอล ของโลก ดังที่ผมเคยเขียนใช้ข้อมูลไปแล้วนั้นว่า จาก มูลค่าทางการตลาด ราวๆ 7 พันกว่าล้านดอลล่าร์ เป็นของ เฮีย บิตคอย เสีย 6 พันกว่าล้านดอลล่าร์ นะครับ
บิตคอย จึงเกิดและมี การเทรด เสมือนว่า เป็น Forex แบบหนึ่ง จริงๆ ก็เป็นนะครับ เพราะก็คือ เงิน สกุลหนึ่งนั่นเอง
ทีนี้ผมเคยเขียนให้อ่านกันว่า การเทรด จะมี 2 แนวทางหลักๆ คือ

1. เทรดแบบ ได้ของมาถือครอง เช่น แลกเงินสกุลนี้ กับอีกสกุล
2. เทรด แบบอิงราคาขึ้นลง ตามจริง จาก ข้อ 1. เราเรียกการเทรดแบบนี้ว่า
CFDs นั่นเอง
ไม่ยากนะครับ ที่เราเห็นโฆษณา มาเทรด Forex กันเถอะ อย่างนั้น อย่างนี้ มันก็คือ ข้อ 2. นั่นเองครับ รวมไปถึง Commodities ต่างๆ เช่น น้ำมัน ทองคำ แร่เงิน เป็นต้น
บิตคอย เมื่อมีมูลค่าสูงขนาดนี้ และ แข็งแกร่งดั่งภูผา มีคนกล่าวว่า บิตคอย ตายแล้วๆ มาแล้วๆ ร่วมๆ 89 ครั้ง จนวันนี้ เขาก็ยัง อยู่ยงคงกระพัน เพราะ สังคมบิตคอย ไม่ใช่ แบบ แนวดิ่ง แต่มีคนมากมายจากหลากหลายวงการ ที่เข้ามาช่วยกันพัฒนา โดยไม่มีใคร เป็นคนมาควบคุม มาเป็นเจ้าของ เพราะตั้งแต่เริ่มพัฒนา ก็มีการแลกเปลี่ยน แนวคิด กันมา แบบ Open Source ซึ่ง เปิดสำหรับทุกคน
ทำให้เป็นที่ยอมรับ แรงและเร็ว ยิ่งมาพบว่า ระบบพัฒนาขึ้นมาจากแนวคิด อันแข็งแกร่ง เช่น การได้มาของตัวเงิน บิตคอย ต้องมาจากการขุดทำเหมือง จะทำได้ ต้องมีการลงทุน เช่นซื้อ ฮาร์ดแวร์ มาเพื่อ ลงโปรแกรมช่วยขุด หรือ แก้สมการอันซับซ้อน พอแก้ออกมาได้ 1 บล็อกค ระบบจะตอบแทนผู้ขุดโดยให้รางวัล 50 เหรียญบิตคอย สมัยแรกๆ ตอนนี้ 25 นะครับ และ ราวๆ กรกฎาคม ศกนี้ จะเหลือ 12.5 แล้วจ้า คือ ทุกๆ 4 ปี ครับ หรือ 210,000 บล็อค
และยังมีระบบ สมุดบัญชีแยกประเภท หรือ Ledger ที่จะบันทึก การทำธุรกรรม ของแต่ละบัญชีเอาไว้ตลอดกาล แยกย้ายเหมือนกันเด๊ะ ไปตาม Server หรือ Node ที่มีอยู่ทั่วโลก ราวๆ 3 หมื่นกว่าแห่ง แต่จะ Active จริงๆ ราวๆ 6 พันกว่าแห่ง ซึ่งก็มากเกินพอครับ
สิ่งที่พิเศษคือ ทุกครั้งที่ Node ตื่น หรือ ออนไลน์ จะมีการอัฟเดตข้อมูลล่าสุด มาเก็บไว้ พอพร้อมทำงาน ทุก Node ตามทฤษฎีของ Blockchain ก็จะ มีข้อมูลเหมือนกันเด๊ะ ทุกเครื่อง ทั้ง 6 พันกว่าแห่งทั่วโลก
ดังนั้นสิ่งต่อมาที่เกิดขึ้นก็คือ ไม่ว่า รายการธุรกรรมของคุณ จะไปทำรายการที่ Node ใด ที่ไหนก็ตาม เขาจะต้อง มีการตรวจสอบ กับ Blockchain ภายในก่อนว่า มีการใช้งานซ้ำหรือไม่ ซึ่งมันเป็นการป้องกันการใช้เงินซ้ำ หรือ Double Spending ได้ 1 ล้านเปอร์เซ็นต์
คุณจะเอาอะไรมาสู้ครับ เมื่อ ต้องซื้อ กับข้อมูล Blockchain ชุดเดียวกันเด๊ะ ทั้ง 6 พันกว่า Node จริงไหม
Blockchain ก็คือ ผลพลอย จากการขุดทำเหมือง ที่ประมวลและเรียงร้อย จาก 1 บล็อก มาต่อๆ กัน โดยมี เลขอ้างอิงว่า ต่อมาจาก Block ก่อนหน้า บล็อกไหน คือจะเข้ามาใน ห่วงโซ่ หรือ Chain นี้ได้ ต้องมีการอ้างอิง บล็อกก่อนหน้าเสมอ มันจึงเรียงร้อยกันไปตามลำดับก่อนหลังครับ จึงเรียกว่า บล็อกเชน หรือ ข้อของโซ่ ที่ร้อยต่อกันไปเรื่อยๆ
แต่เขามีกฎอยู่ว่า หากมี Bug หรือ พลังให้การ ขุดทำเหมือง ที่มากกว่า 51% ใครทำได้ (จริงๆ แล้ว ผมเคยอ่านพบว่า ต้องได้ราวๆ 65% จึงเป็นผลนะครับ) ก็จะเริ่มสร้าง Fork หรือ ส้อม คือ สาขาแตกออกไปอีก 1 ขาขึ้นมาแข่งกับ สายโซ่เดิม ที่ เรียงร้อย ประวัติในบล็อกต่างๆ เอาไว้
ที่นี้ มันจะเริ่มแข่งกันครับ หากไอ้ขา หรือ สายใหม่ มันเริ่มยาวกว่า ตามกฎแล้ว มันจะ แปลงกายมา คุมระบบ เดิม เพื่อป้องกัน การใช้เงินซ้ำ นั่นเอง ก็ Double spending นั่นล่ะ
ดังนั้น หาก สายไหน ยาวกว่า สายนั้นจะครองระบบบิตคอยครับ แต่มันไม่เคยเกิดขึ้น ครับผม เพราะตอนนี้ บรรดา บริษัท Mining Pool และ Cloud Mining เขาครองตลาดกันอยู่ กับสมาชิกที่ละหลายแสนคน รวมๆ แล้วผมว่า หลายล้านคนครับ มีไม่กี่บริศัท
หาก Hacker จะลองของ คงสู้ยาก เพราะคนหมู่มาก เขาอยู่ทาง Miners ครับ หลายล้านคน จริงไหม มันคือความฝัน ครับ เกิดไม่ได้แน่นอน
เพียงแต่ หากเกิด 51% Attack ที่ว่านี่ จะเกิดจาก บริษัท Miner เองได้ไหม เป็นไปได้ มีเจ้าหนึ่ง 2 ปี ก่อนก็เกือบๆ แต่ เขาก็บริหารจัดการ จนไม่เกิดครับ เพราะ หากมันเกิด จะเกิด ข่าว และ การโจมตีกันเอง ระหว่าง Miners ยักษ์ แน่ๆ ทำให้อาจลดความน่าเชื่อถือ
ก็จะกระทบกับ มูลค่า บิตคอย จนได้ เขาจะปล่อยให้มา ทุบหม้อข้าวตัวเองทำไม จริงไหม มันเลยไม่เกิดครับผม :0)
ต้องอ่านเกมส์ ให้ขาดครับผม
เล่ามายาว ก็จะบอก เพียงว่า ระบบบิตคอย มันไม่ธรรมดา แล้วใช่ไหมครับ มันไม่ใช่ ใครมีสุ่มหัวกัน แล้ว มาๆ เราเรียก บิตคอย ว่าเป็นเงิน นายเอาไปเท่านั้น เราเอาไปเท่านี้ แล้วขายไป ขายมา จนมีมูลค่า มั่วๆ เอา
แบบนั้น มันคงตาย ล่มสลายไปตั้งแต่มีคนบอกว่า บิตคอยตายแล้ว ครั้งแรกแล้วล่ะครับ แต่นี่ 89 ครั้งแล้ว ในรอบ 7 ปี ทั้งข่าว และ อุปสรรค มากมายแต่ บิตคอย ก็ยัง นิ่ง ยืนตระหง่านเหมือน ภูผาหินครับผม :0)
ไอ้การที่ผ่านเรื่องหนักๆ มาตลอด 7 ปี แล้วระบบยัง ไหลลื่น และ คนยังศรัทธานี่ล่ะ กลับทบต้น พลังศรัทธา มากยิ่งขึ้นไปอีกสำหรับ เงินดิจิตอลสกุลนี้ ครับผม คุณ...บิตคอย Bitcoin :0)
ว่างๆ ลองแวะไปเยี่ยม Bitcoin Exchange สิครับ แล้วคุณจะทราบว่า พวกเขาสร้าง ระบบกันระดับโลก ทั้งนั้นครับผม
เอาล่ะ เมื่อมันน่าเชื่อถือขนาดนี้ กระผม จึงคว้าจับ ลงทุนเล็กน้อยๆ จนพอมีบิตคอย กับเขาบ้างแล้ว คราวนี้ หากผมเป็นห่วงล่ะครับว่า ลงทุนแล้วจะคุ้มไหม ? ผมจะทำอย่างไรดี
ข้อแรก อย่าไปคิดมาก เพราะเราคิดจะเก็บบิตคอย ถือยาวเป็น 10 ปี ขึ้น รอมูลค่า ในอนาคต เนื่องจากบิตคอย มีพื้นฐาน ทางเทคโนโลยีดีมาก มีสภาพคล่อง และ เป็นที่นิยมอันดับหนึ่ง แต่ ดันมีจำนวนจำกัดเพียง 21 ล้านบิตคอย หรือ แปลออกมาว่า Limited Edition หรือ มีจำนวนจำกัด อะไรที่แนวนี้ และ ข้อมูลรอบด้าน ข้างต้น แข็งแกร่งขนาดนี้ มันควรเป็น ของมี ราคา หรือ Rare ครับผม หากคิดแบบนี้ ยาวๆ ไปเลยครับ ไม่ต้องคิดมาก ได้ บิตคอย Bitcoin มา ก็เก็บเข้า Vault ไปเลยครับ :0)
ข้อสอง เพื่อลงทุน และ สนุกกับผลกำไร ในช่วงปัจจุบัน
หากเป็นแนวทางนี้ ถ้าเรามีอะไรมาช่วย ป้องกันความเสี่ยงจะดีไหมนะ ?
ผมเคยมีแว้บๆ ในหัว แต่นึกไม่ออก จนวันหนึ่ง ผมศึกษาเรื่อง Arbitrage หรือ ทำกำไรส่วนต่าง จาก 2 ตลาด ของ บิตคอยนี่ล่ะ ก็ไปพบ การเทรดแบบ Futures ซึ่ง มันส์อย่าบอกใคร หากเข้าที่ Spot ราคาไหน พอมัน Expired ราคาวันนั้น ขึ้นหรือลง เราก็ กำไร !!! เชื่อไหม ไว้วันหลัง มาขยายความครับ
แต่มันทำให้ผมได้ฟื้นความหลัง ราวๆ ปี 47 ผมไปอบรมที่ตลาดหลักทรัพย์ หลักสูตรฟรี เรื่อง อนุพันธ์ เขาสอนว่า เราสามารถใช้มัน ลดความเสี่ยง จากตลาดหุ้นได้ เออ แนวคิดเดียวกัน เป๊ะๆๆๆ
ผมก็มองว่า บิตคอย หากเราซื้อมา ครอบครอง มัน ก็คล้ายๆ เราไปซื้อหุ้นมา 1 ตัว แล้วได้หนังสือแจ้งมาจาก บริษัทหลักทรัพย์ ว่าท่านนั้นได้สั่งซื้อ หุ้นกุ๊กไก่ จำนวน xxxxxx หุ้น ราคา xxxxxxxxx บาท นั่นเอง
หากหุ้นตัวนั้นราคาตก ก็ขาดทุน หากตกไม่เลิก ก็เจ๊ง มีแต่หุ้น รอไม่ไหว ขายปั๊บ คือ ขาดทุนทันที
บิตคอยก็เหมือนกัน ถือครองไว้ ใน Wallet หากราคาตลาดโลกมัน ทิ่มลง ราคาก็ตก หากตกไม่หยุด ก็เงินหายไปหลายส่วนนะครับ ทำไงล่ะๆๆ ขายออกก็ได้เงินจริงกลับมา ก็ว่าไป
แต่มีอะไรไหม ที่พอช่วยได้ ในที่สุดเราก็คิดออก...ก็ถือบิตคอย ฝั่ง Forex สิครับ เพราะ มันมี BITCOIN CFDs จริงไหม เราก็เทรดสวนทิศทางสิครับท่าน
เช่น เราซื้อบิตคอย มา 420$ ต่อ 1 บิตคอย ไม่ทันไรมัน ดันมีข่าวแรงๆ เกิดราคาถอยแรง เหลือ 410$ หากเราไหวทัน ก็เข้า Forex Platform เช่น อีโตโร่
แล้ว เราสั่งเปิด สถานะ Sell รับไว้เลยเช่นรับทันที่ 410$ พอดี และราคาใน Forex มันก็อ้างอิงจากราคาจริงใช่ไหมครับ มันยิ่งลงเรายิ่งกำไร จริงไหม สำหรับการเปิด สถานะ Sell ใน Forex !!!
ยิ่งหากเราวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นนะครับ เราจะ Leverage ทุ่นแรงอีก กีเท่า ก็แล้วแต่เชาว์ของแต่ละท่านครับ เพราะหากทำได้ สมดุล ไม่ใช่แค่กำไรขาลง จาก Forex พอมาดุลกับ บิตคอยที่ถือครองเท่านั้น แต่อาจจะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ เข้าพก อีกด้วย....อืม น่าคิดเหมือนกันนะครับ
ทั้งหมดก็เป็นแนวคิดนะครับ เขียนมาให้เป็นความรู้ครับผม และ
อย่าลืมว่า ทุกการลงทุน มีความเสี่ยงเสมอ นะครับ กรุณาพิจารณาทุกครั้งก่อนการลงทุนครับ :0)...พบกันใหม่ในบทความต่อไป ครับ :0)
สวัสดีครับ
คุณบอลล์

2 comments:

  1. Hello!

    My name is Naveed and I am an affiliate program manager for InstaForex Group.

    We would like to offer you the affiliate program cooperation. Become an affiliate right now and get the

    informational materials for your web-site with the integrated affiliate link!

    Looking forward to hear you soon.We will be glad to establish mutually advantageous cooperation with you.

    Thank you.

    Sincerely yours,

    Naveed

    InstaForex Partners Facebook Group
    InstaForex Partners Facebook Page
    InstaForex Partners Twitter
    InstaForex Partners Google+
    InstaForex Companies Group

    http://instaforex.com

    ReplyDelete
  2. Have you ever considered maximizing your free BTC collections by using a BITCOIN FAUCET ROTATOR?

    ReplyDelete